มอเตอร์เกียร์ จะเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีหน้าที่ใช้สำหรับควบคุมระบบการทำงานของการเคลื่อนที่วัตถุได้อย่างเหมาะสม อย่างเช่น เครื่องช่วยในการลำเลียงสินค้า เป็นต้น โดยมอเตอร์เกียร์จะอาศัยหลักการทำงานจากมอเตอร์ เพื่อนำมาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า ใช้เป็นพลังงานกล ช่วยให้วัตถุสามารถเคลื่อนที่ได้ และฟันเฟืองหรือเกียร์ทำหน้าที่ในการลดรอบความเร็ว หรือทดสอบแรงบิด ซึ่งจะเป็นลักษณะภายนอกของอุปกรณ์นี้จะมีรูปทรงที่มีความคล้ายคลึงกับท่อนโลหะทรงกระบอก ที่จะประกอบไปด้วยตัวเรือน หน้าแปลน และก้านเพลานั่นเอง ทั้งนี้มอเตอร์เกียร์จะมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน คุณจะต้องเลือกรูปแบบให้เหมาะสมกับประเภทงานที่ใช้ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพอันสูงสุด
ประเภทของ มอเตอร์เกียร์ มีอะไรบ้าง
- มอเตอร์เกียร์ตรง : มอเตอร์เกียร์ประเภทนี้จะมีลักษณะภายในมีฟันเฟืองแบบเฉียง ที่จะให้คุณสมบัติที่จะสามารถลดรอบมอเตอร์ และเพิ่มแรงบิดให้เหมาะสมกับการทำงานหลากหลายประเภท โดยมอเตอร์เกียร์รูปแบบนี้จะมีให้เลือกใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบขาตั้ง แบบมอเตอร์เกียร์ 2 เพลาออก เป็นต้น โดยมอเตอร์เกียร์ตรงจะได้รับความนิยมนำมาใช้ภายในครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก อย่างเช่น ประตูเลื่อน หรือรอกยกของ เป็นต้น
- มอเตอร์เกียร์แพลนเนตตารี่ : จะเป็นมอเตอร์เกียร์ที่มีโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งถ่ายกำลังจากชุดฟันเฟือง ที่มีการเคลื่อนที่รอบแกนของฟันเฟืองตัวอื่น ๆ และในขณะเดียวกันก็สามารถหมุนรอบตนเองได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้จะถือเป็นคุณสมบัติพิเศษที่สามารถถ่ายโอนน้ำหนักระหว่างการใช้งานได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนมากกว่าประเภทอื่น ๆ จึงทำให้มอเตอร์เกียร์แพลนเนตตารี่นิยมใช้งานภายในโรงงานอุตสาหกรรม และเครื่องยนต์อย่างแพร่หลาย
- มอเตอร์เกียร์แบบหน้าแปลน : สำหรับมอเตอร์เกียร์ประเภทนี้จะมีลักษณะเด่นตรงบริเวณฝั่งก้านเพลาที่อยู่ตรงกลางด้านข้างจะยื่นออกมา เพื่อช่วยในการรองรับการทำงานร่วมกับมอเตอร์ หรือเครื่องยนต์อื่น ๆ ได้ในตัว ทำให้มอเตอร์เกียร์หน้าแปลนสามารถส่งแรงบิดสูงสุดได้อย่างเต็มกำลัง อีกทั้งยังมีการทำงานที่ค่อนข้างเงียบกว่ารูปแบบอื่น ๆ และที่สำคัญยังสามารถติดตั้งได้อย่างสะดวกทั้งภายในและภายนอกอาคารอีกด้วย
จะเห็นได้เลยว่ามอเตอร์เกียร์ มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งานเลยทีเดียว ซึ่งก่อนเลือกใช้มอเตอร์เกียร์คุณควรจะเลือกให้เหมาะสมกับประเภท และจุดประสงค์ของการใช้งาน อีกทั้งคุณยังจะต้องตรวจสอบว่ามอเตอร์เกียร์ที่เลือกใช้นั้น สามารถติดตั้งเข้ากับเครื่องจักร หรือเครื่องยนต์ได้หรือไม่ เพื่อที่จะใช้งานได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดนั่นเอง